ไฮไลต์จากแผนปฏิบัติการของโจ ไบเดนสำหรับชุมชนชาวอเมริกันจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ASIAN AMERICAN & PACIFIC ISLANDER)

รองประธานาธิบดีโจ ไบเดนทราบดีว่าชุมชนชาวอเมริกันจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asian American and Pacific Islander, AAPI) คือบทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์แห่งชนชาติอเมริกัน ความสามารถของประเทศในการดึงดูดผู้ที่ทำงานหนักจากทุกวัฒนธรรมและทุกชาติได้ทำให้เราแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเสมอมา รองประธานาธิบดีโจได้เปลี่ยนไอเดียที่ก้าวหน้า ชัดเจนเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้สำหรับชุมชน AAPI ในฐานะรองประธานาธิบดีและสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประธานาธิบดีโอบามาในการผ่านกฎหมายสำคัญซึ่งได้แก่กฎหมายการคุ้มครองผู้ป่วยและการรักษาพยาบาลในราคาไม่แพง (Affordable Care Act) ที่ทำให้เกิดการประกันสุขภาพสำหรับผู้คนมากขึ้น 20 ล้านคน รวมถึงชาว AAPI จำนวนสองล้านคนในขณะที่ประธานาธิบดีโอบาดีและรองประธานาธิบดีหมดวาระจากตำแหน่ง คณะบริหารโอบามา-ไบเดนยังได้จัดทำโครงการริเริ่มในทำเนียบขาวเกี่ยวกับชาวอเมริกันจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชาว AAPI ในสหรัฐอเมริกาผ่านโครงการจากรัฐบาลกลาง ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน และการเข้าไปร่วมทำงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ AAPI รองประธานาธิบดีโจได้ช่วยให้ได้รับเสียงโหวตเพื่อที่ในท้ายที่สุดจะได้มอบค่าตอบแทนที่รอคอยมานานแสนนานให้กับทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สองชาวฟิลิปปินส์-อเมริกันของเรา

รองประธานาธิบดีโจทราบดีว่าเราอยู่ในการต่อสู่เพื่อจิตวิญญาณของอเมริกา ประเทศของเราต้องการความเป็นผู้นำที่มีจริยธรรม และพลังที่รวมเป็นหนึ่งเดียวในทำเนียบขาวมากกว่าความแตกแยก เพื่อต่อสู้กับความเกลียดชังและความอยุติธรรม ในฐานะประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะสานต่อพันธสัญญาชั่วชีวิตของเขาในการรับประกันว่าสมาชิกทุกคนในชุมชน AAPI ไม่ว่าจะเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ใดจะได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติ และมีโอกาสในความฝันของคนอเมริกัน รองประธานาธิบดีโจจะ:

สร้างความชัดเจนในการตอบสนองต่อ COVID-19 ด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ 

เราจำเป็นต้องมีการตอบสนองด้านสาธารณสุขที่ชัดเจน เพื่อควบคุมการระบาดของ COVID-19 และให้การรักษาแก่ผู้ที่จำเป็น รวมถึงการตอบสนองด้านเศรษฐกิจที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดการเยียวยาที่แท้จริงแก่แรงงาน ครอบครัวและธุรกิจขนาดเล็กของ AAPI และปกป้องเศรษฐกิจองค์รวมทั้งหมด รองประธานาธิบดีโจจะรับประกันการเข้าถึงการดูแลสุขภาพด้วยการเพิ่มการตรวจ รับประกันว่าการตรวจ การรักษา และวัคซีนสำหรับ COVID-19 ที่จะเกิดขึ้นในที่สุด จะไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมีประกัน หรือสถานะการเข้าเมืองอย่างไร การเก็บข้อมูลเชื้อชาติ เพศ และชาติพันธุ์ในการตรวจและรักษา เพื่อให้เราสามารถแยกแยะและระบุความแตกต่าง และเปิดระยะการลงทะเบียน Obamacare ครั้งใหม่เพื่อให้ AAPI ที่จำเป็นต้องมีประกันสามารถได้รับประกันนั้นได้ 

รองประธานาธิบดีโจจะปกป้องแรงงานชาว AAPI ที่ให้การบริการที่สำคัญโดยการทำให้พวกเขามีอุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส การนำมาตรฐานมาปฏิบัติและบังคับใช้เพื่อให้แรงงานชาว AAPI ทุกคนมีความปลอดภัยในการทำงานแนวหน้า และรับประกันว่าสิทธิพลเมืองของพวกเขาจะได้รับการคุ้มครอง และกระตุ้นการจ่ายเงินให้กับแรงงานชาว AAPI ที่สำคัญ อีกทั้ง รองประธานาธิบดีโจจะสำรองครึ่งหนึ่งของเงินทุนใหม่ทั้งหมดจากโครงการเพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กจากรัฐบาล Paycheck Protection Program ที่มีพนักงานไม่เกิน 50 คน อนุมัติเงินกู้ยืมในวงกว้างมากขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กที่จำเป็นสามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานและครอบคลุมค่าใช้จ่ายประจำได้ และให้การรับรองว่าธุรกิจ AAPI ขนาดเล็กทุกธุรกิจจะได้รับการเยียวยา นอกจากนี้ยังจะมีการสร้างแดชบอร์ดประจำสัปดาห์เพื่อแสดงว่าธุรกิจขนาดเล็กใดกำลังเข้าถึงเงินกู้ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการไม่ได้ทอดทิ้งธุรกิจที่ชุมชน ชนกลุ่มน้อย และสตรีเป็นเจ้าของ หรือแม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กที่สุด แผน แปดจุดของรองประธานาธิบดีโจเพื่อการเปิดกิจการอีกครั้งที่แข็งแกร่งขึ้น ปลอดภัยขึ้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทำให้มั่นใจว่าเราปกป้องชาวอเมริกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ในขณะที่ฟื้นฟูความเชื่อมั่นผู้บริโภคและสร้างรากฐานเพื่อเศรษฐกิจที่ใช้ได้ผลสำหรับทุกคน 

นับตั้งแต่มีการระบาดของ COVID-19 เราได้ยินรายงานข่าวมากขึ้นเกี่ยวกับชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่ตกเป็นเป้าความเกลียดชัง การกระทำเหยียดเชื้อชาติเหล่านี้ต้องหยุดลง การกระทำเหล่านี้เป็นพื้นฐานแรงกระตุ้นที่ถือว่าเป็นความโฉดเขลาที่อันตราย ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราเป็นในฐานะประเทศหนึ่ง ไม่มีใครควรตกเป็นเป้าเพราะลักษณะที่เห็น ที่มาของบรรพบุรุษ หรือสิ่งที่พวกเขาเป็น รองประธานาธิบดีโจจะให้ความเป็นผู้นำที่เราจำเป็นในการจัดการทุกแง่มุมของการระบาดนี้ รวมถึงเหตุการณ์การเหยียดเชื้อชาติมากมายที่เกิดกับชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียอย่างเร่งด่วนและจริงจัง 

ยกระดับความมีสิทธิมีเสียงของชาว AAPI และเพิ่มตัวแทน AAPI ในรัฐบาล คณะบริหารโอบามา-ไบเดนได้แต่งตั้งผู้พิพากษาชาว AAPI มากกว่าคณะบริหารก่อนหน้าทั้งหมดรวมกัน และกระตุ้นการจ้างงาน AAPI ในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส รองประธานาธิบดีโจจะเสนอชื่อและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและผู้พิพากษาซึ่งมีลักษณะเหมือนกับที่เหลือของอเมริการวมทั้งผู้ที่เป็น AAPI รองประธานาธิบดีโจจะสานต่อโครงการริเริ่มของคณะบริหารโอบามา-ไบเดนที่เกี่ยวกับ AAPI และคณะกรรมการที่ปรึกษาของประธานาธิบดีเกี่ยวกับ AAPI เพื่อให้มั่นใจว่าหน่วยงานของรัฐบาลกลางกำลังพิจารณาชุมชน AAPI ในการออกแบบและการนำโครงการของรัฐบาลกลางมาปฏิบัติ และผู้นำชุมชน AAPI มีสิทธิมีเสียงในคณะบริหารของไบเดน เขายังทราบวิธีการนำผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้มั่นใจว่าชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายมีส่วนสำคัญในกระบวนการตัดสินใจ โดยจะดำเนินการเช่นเดียวกันกับชุมชน ชนพื้นเมืองฮาวายและชนหมู่เกาะแปซิฟิก (Native Hawaiian and Pacific Islander, NHPI) โดยการส่งเสริมคณะทำงานเฉพาะกิจหมู่เกาะแปซิฟิก (Pacific Island Task Force) โดยคณะบริหารโอบามา-ไบเดน  

คุ้มครองและสานต่อกฎหมายการคุ้มครองผู้่ป่วยและการรักษาพยาบาลในราคาไม่แพง 

ชาว AAPI หลายคนมักต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านภาษาและวัฒนธรรมที่ทำให้พวกเขาเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้น้อยลง รองประธานาธิบดีโจเชื่อว่าชาวอเมริกันทุกคนควรที่จะสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพในราคาที่สามารถจ่ายได้และมีคุณภาพ และยังจะปกป้องการคุ้มครองสุขภาพให้กับทุกคน เขาจะทำให้ชาวอเมริกันมีทางเลือกใหม่ในการซื้อตัวเลือกประกันสุขภาพอย่าง Medicare เขาจะต่อสู้กับการใช้อำนาจในทางมิชอบของบริษัทยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ และจะเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการรับประกันการบังคับใช้กฎหมายความเท่าเทียมกันด้านสุขภาพจิต และเพิ่มการให้เงินทุนสำหรับการบริการด้านสุขภาพจิต รองประธานาธิบดีโจยังจะเพิ่มการลงทุนของรัฐบาลกลางเป็นสองเท่าในศูนย์สุขภาพชุมชน ขยายการเข้าถึงการดูแลสุขภาพคุณภาพสูงสำหรับกลุ่มประชากร AAPI ที่ต้องการสิ่งนี้มากที่สุด เขาจะปรับปรุงการดูแลสำหรับผู้ป่วยชาว AAPI ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังโดยการประสานงานระหว่างแพทย์ของผู้ป่วยและจัดการตัวกำหนดด้านสังคมของสุขภาพ อีกทั้ง รองประธานาธิบดีโจจะขยายการเข้าถึงการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ รวมถึงการคุมกำเนิดและการปกป้องสิทธิในการเลือกตามรัฐธรรมนูญ 

ลงทุนกับนักเรียนและผู้ให้การศึกษาของเรา 

บิดามารดาหลายคนในชุมชน AAPI ยังไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรและการช่วยเหลือที่จำเป็นเพื่อรับรองว่าบุตรหลานของพวกเขาจะประสบความสำเร็จ รองประธานาธิบดีโจจะลงทุนกับเด็กทุกคนตั้งแต่เกิดจนถึงเกรด 12 โดยไม่เกี่ยวข้องกับว่า Zip Code รายได้ของบิดามารดา เชื้อชาติหรือความพิการของพวกเขา พวกเขาจะได้รับการเตรียมพร้อมที่จะประสบความสำเร็จในเศรษฐกิจของวันพรุ่งนี้ ในฐานะประธานาธิบดี โจ ไบเดนจะมอบการศึกษาระดับก่อนอนุบาลคุณภาพสูงที่เหมาะสำหรับทุกคนให้แก่เด็กที่อายุสามและสี่ปีทุกคน เขาจะเพิ่มทุน Title I เป็นสามเท่าให้กับโรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวนมากมาจากครอบครัวที่รายได้น้อย เงินทุนใหม่นี้ในลำดับแรกจะถูกใช้เพื่อรับประกันว่าอาจารย์ในโรงเรียน Title I ได้รับเงินเดือนในระดับที่แข่งขันได้ เด็กอายุสามและสี่ปีสามารถเข้าถึงโรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน และเขตให้การเข้าถึงหลักสูตรที่เข้มงวดทั่วทั้งโรงเรียน และยังจะสร้างโรงเรียนที่ดีที่สุด ที่มีความเป็นสุดยอดนวัตกรรมในประเทศในชุมชน AAPI ที่ไม่มีการเข้าถึงโรงเรียนที่มีคุณภาพ ชุมชนอื่นๆ ที่เป็นชุมชนผิวสี และชุมชนรายได้น้อย ขยายแม่แบบโรงเรียนชุมชน มอบความช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับนักเรียนและบิดามารดาให้แก่โรงเรียนรัฐของเรา เพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเป็นสองเท่าในโรงเรียนของเรา และปกป้องนักเรียนชาว AAPI จากการถูกข่มเหง เขายังจะเพิ่มความหลากหลายของอาจารย์โดยให้การสนับสนุนแนวทางที่สร้างสรรค์มากขึ้นในการสรรหาอาจารย์ผิวสีและทำงานกับสถาบันสำหรับแก่ชนกลุ่มน้อย รวมทั้ง American and Native American Pacific Islander-serving institutions (AANAPISIs) เพื่อสรรหาและเตรียมอาจารย์   

ส่งเสริมการศึกษาระดับสูงกว่าไฮสกูล 

รองประธานาธิบดีโจจะจัดให้วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยรัฐไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษาชาว AAPI ทั้งหมดที่มีรายได้ครอบครัวต่ำกว่า 125,000 ดอลลาร์ เขายังจะมอบการศึกษาในวิทยาลัยชุมชนหรือโครงการฝึกอบรมคุณภาพสูงอื่นโดยปราศจากหนี้ให้แก่สมาชิกชุมชน AAPI ที่ทำงานหนักที่กำลังพยายามที่จะเรียนรู้และปรับปรุงทักษะของตนเพื่อก้าวให้ทันลักษณะการทำงานที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป เขายังเพิ่มมูลค่าสูงสุดของทุนการศึกษา Pell เป็นสองเท่า โดยเพิ่มจำนวนของ AAPI ที่เป็นชนชั้นกลางที่สามารถเข้าร่วมโครงการ และเพิ่มมูลค่าของทุนการศึกษาสำหรับผู้มีสิทธิได้รับทุน Pell อยู่แล้ว อีกทั้ง ยังจะลดการชำระเงินกู้ยืมนักเรียนสำหรับนักศึกษาปริญญาตรีจากรัฐบาลกลางลงครึ่งหนึ่ง โดยการทำให้โครงการชำระเงินคืนที่ยึดรายได้เป็นเกณฑ์ในปัจจุบันมีความง่ายขึ้นและเพิ่มความทั่วถึงให้มากขึ้น นอกจากนี้ เขายังจะยกหนี้ทั้งหมดที่เกี่ยวกับค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีจากวิทยาลัยรัฐที่เรียนสองปีและสี่ปีสำหรับผู้ที่เป็นหนี้ที่มีรายได้ไม่เกิน 125,000 ดอลลาร์ซึ่งจะรวมถึงสถาบันเอกชนสำหรับชนกลุ่มน้อย รองประธานาธิบดีโจจะดำเนินการในการแก้ไขความไม่เท่าเทียมด้านเงินทุนที่สถาบันการศึกษาสำหรับชนกลุ่มน้อยได้รับ รวมถึง AANAPISI เพื่อให้สหรัฐอเมริกาสามารถได้รับประโยชน์จากจุดแข็งเฉพาะตัวของตน 

ต่อต้านการเกิดอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่กำลังเพิ่มขึ้น

 จากร้านขายของชำไปจนถึงสถานที่ทำงานในการอยู่ร่วมกับชุมชน AAPI ได้แก่ชาวอเมริกันซิกห์ ฮินดูและมุสลิมต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติและความเกลียดชังมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยิ่งเลวร้ายลงด้วยวาจาอันตรายและการกระพือเปลวไฟแห่งความเกลียดชังให้เพิ่มยิ่งขึ้นของประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อสิทธิและเสรีภาพของบางคนถูกคุกคามด้วยความเกลียดชัง ถือเป็นการคุกคามพวกเราทุกคน คณะบริหารโอบามา-ไบเดนได้เพิ่ม "ต่อต้านซิกห์" และ "ต่อต้านฮินดู" เข้าไปหมวดการรายงานอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังของกระทรวงยุติธรรม คณะบริหารยังได้มอบแหล่งทรัพยากรและทำงานร่วมกับผู้นำท้องถิ่นที่อำนวยการอยู่ในชุมชน AAPI ในการต่อสู้กับการบุลลี่ รองประธานาธิบดีโจจะสร้างความชัดเจนว่าไม่มีที่ยืนสำหรับความเกลียดชังในผืนแผ่นดินนี้ และกระทรวงยุติธรรมของเขาจะให้ความสำคัญกับการดำเนินการฟ้องร้องอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง   

ยุติการระบาดของความรุนแรงที่เกิดจากปืน  

รองประธานาธิบดีโจได้จัดการกับสมาคมปืนเล็กยาวแห่งชาติ (NRA) บนเวทีระดับชาติและชนะถึงสองครั้ง ในฐานะประธานาธิบดี เขาจะทำให้ NRA พ่ายแพ้อีกครั้ง รองประธานาธิบดีโจจะทำให้เกิดนโยบายความปลอดภัยของปืนด้วยสามัญสำนึกที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เขาจะปกป้องครอบครัว โรงเรียนและชุมชนของเรา โดยการทำให้ผู้ผลิตต้องมีความรับผิดชอบ ทำให้อาวุธสงครามหายไปจากท้องถนนของเรา รวมทั้งการแบนการผลิตและขายอาวุธที่ใช้เพื่อทำร้ายร่างกายและกล่องใส่กระสุนความจุสูง และการป้องกันไม่ให้ปืนตกไปอยู่ในมือของคนที่เป็นอันตราย รวมถึงการกำหนดให้มีการตรวจสอบภูมิหลังสำหรับการขายปืนทั้งหมด และอุดช่องโหว่ในกฎหมายของระบบตรวจสอบภูมิหลังของรัฐบาลกลาง

ปกป้องโลกของเราจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ 

วิกฤติสภาวะอากาศยังคงเป็นภัยคุกคามต่อชุมชน AAPI อย่างต่อเนื่องรวมถึงชุมชน NHPI บางเกาะอาจไม่สามารถอยู่อาศัยได้ภายในปี 2030 หากไม่มีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยทันที นอกจากนี้ สองรัฐที่มีเปอร์เซ็นต์ของชาว AAPI สูงสุด ได้แก่ ฮาวายและแคลิฟอร์เนียยังมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รองประธานาธิบดีโจมีความเข้าใจมาเป็นเวลายาวนานเกี่ยวกับความเลวร้ายของการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศและความสำคัญด้านจริยธรรมและเศรษฐกิจในการจัดการกับปัญหานี้ รองประธานาธิบดีโจมีแผนที่จะเข้าไปจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศและมลพิษเพื่อปกป้องชุมชนของเรา เขาจะเข้าร่วมข้อตกลงปารีสอีกครั้งตั้งแต่วันแรก และจากนั้นจะเร่งให้ทั่วโลกยกระดับพันธสัญญาที่มีต่อสภาวะอากาศ ที่บ้าน เขาจะรับประกันว่าชุมชนที่ได้รับอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศและมลพิษคือคนแรกที่จะได้รับประโยชน์จากการปฏิวัติด้านเศรษฐกิจสะอาดของเขา เขาจะผลักดันให้สหรัฐอเมริกาบรรลุเศรษฐกิจสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์และมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 แผนของรองประธานาธิบดีโจจะสร้างงานรายได้ดี 10 ล้านตำแหน่ง และทำให้ผู้ที่สร้างมลพิษต้องมีความรับผิดชอบ เขาจะทำงานเพื่อรับประกันว่าสมาชิกทุกคนของชุมชน AAPI สามารถเข้าถึงน้ำดื่มสะอาด อากาศสะอาด และสิ่งแวดล้อมที่ปราศจากสารสร้างมลพิษ และเงินทุกดอลลาร์ที่ใช้เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่จะใช้ป้องกัน ลด และทนทานต่อสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง 

สร้างความมั่นคงให้กับค่านิยมของเราในฐานะประเทศแห่งคนอพยพเข้าเมือง 

ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ได้ทำร้ายค่านิยมและประวัติศาสตร์ของเราในฐานะของประเทศแห่งคนอพยพเข้าเมืองมาโดยตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด และสิ่งนี้จะหยุดเมื่อโจ ไบเดนเป็นประธานาธิบดี รองประธานาธิบดีโจจะยกเลิกการ "การแบนมุสลิม" ของประธานาธิบดีทรัมป์ตั้งแต่วันแรก และเปลี่ยนกลับนโยบายที่พักพิงที่ก่อให้เกิดอันตรายซึ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายและวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ชายแดนของเรา รองประธานาธิบดีโจจะเริ่มทำงานกับรัฐสภาในการผ่านการปฏิรูปการเข้าเมืองที่เกี่ยวกับกฎหมายที่จะปรับระบบของเราให้ทันสมัย พร้อมด้วยการให้ความสำคัญในการทำให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน โดยการให้แผนที่นำทางแก่พลเมืองที่เป็นผู้อพยพเข้าเมืองที่ไม่ได้รับบันทึกเอกสารจำนวนเกือบ 11 ล้านคน รวมถึง 1.7 ล้านคนจากเอเชีย 

เขาจะส่งเสริมการเข้าเมืองแบบเป็นครอบครัว และรักษาความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของครอบครัวไว้ในฐานะหลักการหลักของระบบการเข้าเมืองของเรา ซึ่งรวมถึงการลดวีซ่าครอบครัวที่คั่งค้างอยู่ เขาจะเพิ่มจำนวนของวีซ่าที่เสนอให้แก่การเข้าเมืองเพื่อการทำงานแบบถาวรโดยอ้างอิงตามสภาวะเศรษฐกิจมหภาค และผู้ที่ได้รับการยกเว้นจากการเป็นผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา PhD ในเรื่องเกี่ยวกับ STEM และเขายังจะสนับสนุนการปฏิรูประบบวีซ่าชั่วคราวเป็นครั้งแรกแก่แรงงานเฉพาะด้านที่มีทักษะสูงในการปกป้องค่าแรง จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนการเสนอวีซ่าและตัดการจำกัดจำนวนวีซ่าที่ให้จากการจ้างงานตามประเทศออกด้วย เขาจะฟื้นฟูและป้องกันกระบวนการโอนสัญชาติสำหรับผู้ที่ถือกรีนการ์ด อีกทั้ง เขายังจะเพิ่มจำนวนผู้อพยพที่เราต้อนรับเข้าสู่ประเทศโดยการตั้งค่าเป้าหมายการรับผู้อพยพทั่วโลกต่อปีเป็น 125,000 คน และพร้อมจะเพิ่มจำนวนเมื่อเวลาผ่านไปเพื่อให้สัดส่วนกับความรับผิดชอบ ค่านิยมของเรา และความจำเป็นของโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  เขาจะทำงานร่วมกับรัฐสภาในการกำหนดจำนวนผู้อพยพที่รับขั้นต่ำ 95,000 คนต่อปี รองประธานาธิบดีโจจะขจัดความไม่มั่นคงสำหรับ Dreamer โดยการนำโปรแกรม DACA กลับมาใช้อีกครั้ง และสำรวจทุกตัวเลือกด้านกฎหมายเพื่อปกป้องครอบครัวของพวกเขาจากการแยกจากกันจากความขาดมนุษยธรรม ในฐานะประธานาธิบดี โจ ไบเดนจะหยุดการโจมตีสถานที่ทำงานและสถานที่ซึ่งมีความละเอียดอ่อนอื่นจากการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง ไม่มีใครควรที่จะกลัวในการไปรับการดูแลทางการแพทย์ หรือไปโรงเรียน ไปทำงานหรือสวดมนตร์ด้วยความกลัวจากการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง 

จุดประกายความเป็นผู้ประกอบการและการเติบโตของธุรกิจขนาดเล็กในชุมชน AAPI 

ทั่วสหรัฐอเมริกามีธุรกิจที่ชาว AAPI เป็นเจ้าของอยู่ราวสองล้านธุรกิจ ซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตและโอกาสทางธุรกิจไปทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม หลายธุรกิจมักประสบปัญหาเช่นการเข้าถึงเงินทุนและอุปสรรคด้านภาษา ที่ทำให้การพัฒนาธุรกิจขนาดเล็กมีความซับซ้อนสำหรับชุมชน AAPI ในปี 2010 คณะบริหารโอมาบา-ไบเดนได้ก่อตั้งโปรแกรมโครงการริเริ่มเครดิตธุรกิจขนาดเล็กของรัฐ (State Small Business Credit Initiative, SSBCI) เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจขนาดเล็ก โปรแกรมได้โอนเงินทุนให้แก่โครงการให้ยืมแก่ธุรกิจขนาดเล็กของรัฐ กระตุ้นให้เกิดการให้ยืมใหม่ 10 พันล้านดอลลาร์สำหรับเงินทุน SSBCI ทุก 1 พันล้านดอลลาร์ รองประธานาธิบดีโจจะยืดระยะโปรแกรมไปจนถึงปี 2025 และเพิ่มเงินทุนจากรัฐบาลกลางอีกสองเท่าไปเป็น 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการลงทุนราว 30 พันล้านดอลลาร์จากภาคเอกชนไปยังธุรกิจขนาดเล็กดังกล่าว โดยเฉพาะที่มีสตรีและคนผิวสีเป็นเจ้าของ รองประธานาธิบดีโจยังจะเพิ่มการให้ทุนสำหรับงบประมาณขององค์กรพัฒนาธุรกิจชนกลุ่มน้อย (Minority Business Development Agency) อีกทั้ง ยังจะก่อตั้งโปรแกรมทุนซึ่งให้จากการแข่งขันเพื่อให้ทุน 5 พันล้านดอลลาร์แก่รัฐสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพใหม่นอกเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเรา    

ขจัดอุปสรรคด้านภาษาสำหรับชุมชน AAPI

 อุปสรรคด้านภาษาสำหรับการบริการและทรัพยากรที่สำคัญสามารถทำให้ AAPI ที่มีข้อจำกัดด้านความถนัดภาษาอังกฤษไม่สามารถไปถึงศักยภาพของตนและความฝันของคนอเมริกัน รองประธานาธิบดีโจจะสานต่อจากงานของคณะบริหารโอบามา-ไบเดน ซึ่งได้รับประกันว่าสมาชิกของชุมชน AAPI ซึ่งมีข้อจำกัดด้านความถนัดภาษาอังกฤษสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพและการบริการจากภาครัฐอื่นๆ ตัวอย่างเช่นคณะบริหารได้ผลิตวิดีโอเพื่อสื่อสารในภาษาจีน เกาหลี เวียดนาม พม่า ม้ง กัมพูชา และลาวเพื่อให้แน่ใจว่าสมาชิกของชุมชนต่างๆ เหล่านี้สามารถที่จะได้รับประโยชน์จากผลประโยชน์และการคุ้มครองจากกฎหมายการคุ้มครองผู้่ป่วยและการรักษาพยาบาลในราคาไม่แพง (Affordable Care Act) รองประธานาธิบดีโจจะกำกับหน่วยงานของเขาในการระบุหาวิธีในการเพิ่มการเข้าถึงโปรแกรมของรัฐบาลกลางสำหรับบุคคลและครอบครัวที่เป็นชาว AAPI รวมถึงผู้ที่มีข้อจำกัดด้านความถนัดภาษาอังกฤษ อีกทั้ง จะสร้างศูนย์ทรัพยากรในละแวกหรือศูนย์ต้อนรับเพื่อช่วยผู้อาศัยในการหางาน เข้าถึงบริการและโอกาสในการเรียนภาษาอังกฤษ และนำไปสู่ระบบโรงเรียน ระบบดูแลสุขภาพ และด้านอื่นๆ ที่สำคัญของชีวิตประจำวัน และจะรับรองว่าโรงเรียนรัฐทั้งหมดมีการสนับสนุนการเรียนภาษาอังกฤษอย่างเพียงพอที่จะช่วยเด็กทุกคนก้าวไปถึงศักยภาพของตน

สร้างความแข็งแกร่งให้กับสิทธิในการออกเสียง 

สำหรับชาว AAPI ประมาณ 33 เปอร์เซ็นต์ที่มีข้อจำกัดด้านความถนัดภาษาอังกฤษ ความยากของการผ่านกระบวนการโหวตยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในการที่จะได้รับคุณค่าของประชาธิปไตยของเราอย่างเต็มที่ อุปสรรคนี้ พร้อมด้วยความน่าผิดหวังของกฎหมายสิทธิในการออกเสียง (Voting Rights Act) ได้ทำให้การมีส่วนร่วมของชุมชนผิวสี รวมทั้งชุมชน AAPI ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในกระบวนการด้านประชาธิปไตย รองประธานาธิบดีโจจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประชาธิปไตยด้วยการรับประกันว่าเสียงโหวตของชาวอเมริกันทุกคนจะได้รับการคุ้มครอง เขาจะเริ่มจากการฟื้นคืนกฎหมายสิทธิในการออกเสียง จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระทรวงยุติธรรมได้แสดงข้อคิดเห็นขัดแย้งกับกฎหมายรัฐที่ยับยั้งสิทธิในการออกเสียง เขาจะสนับสนุนการลงทะเบียนผู้โหวตแบบอัตโนมัติ การลงทะเบียนผู้โหวตในวันเดียว และขั้นตอนอื่นๆ เพื่อให้ทุกคนได้ใช้สิทธิในการโหวตง่ายขึ้น เขาจะสนับสนุนให้ยกเลิกการแบ่งเขตเลือกตั้งแบบเอาเปรียบ (Gerrymandering) และจะปกป้องคูหาลงคะแนนและรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากอำนาจแปลกปลอมที่ต้องการจะทำลายประชาธิปไตยและก่อกวนการเลือกตั้งของเรา

แยกข้อมูลเพื่อให้ได้การเป็นตัวแทนที่เท่ากัน 

การรวมข้อมูลของชุมชน AAPI ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ความหลากหลายและความต้องการของชาว AAPI คณะบริหารโอบามา-ไบเดนได้นำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้สำหรับการแยกกลุ่มข้อมูลของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับ AAPI รองประธานาธิบดีโจจะสานต่องานนี้และรับรองว่าคณะบริหารของเขารับทราบและทำงานเพื่อความท้าทายมากมายที่กำลังเผชิญหน้ากับชุมชน AAPI ที่หลากหลาย 

ลงทุนในชุมชน AAPI ของเราผ่านการเคหะ 

ในฐานะประธานาธิบดี โจ ไบเดนจะลงทุน 640 พันล้านดอลลาร์ในเวลากว่า 10 ปี เพื่อให้ทุกคนในชุมชน AAPI สามารถเข้าถึงบ้านที่ราคาไม่แพง มั่นคง ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เข้าถึงได้ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและมีความยืดหยุ่น และตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนที่ดี และการเดินทางไปทำงานที่สมเหตุสมผล เขาจะช่วยครอบครัว AAPI ซื้อบ้านหลังแรกและสร้างความมั่งคั่งโดยให้เงินลดหย่อนภาษีใหม่ที่ขอคืนได้ และขอจ่ายล่วงหน้าได้ถึง 15,000 ดอลลาร์และให้เงินลดหย่อนภาษีใหม่ของผู้ให้เช่าเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่รายได้น้อยมากขึ้น รองประธานาธิบดีโจจะสร้างองค์กรรายงานเครดิตสาธารณะใหม่ภายใน สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน (Consumer Financial Protection Bureau) เพื่อให้บริโภคมีตัวเลือกจากรัฐที่ใช้เพื่อลดความไม่เท่าเทียมด้านเชื้อชาติ ตัวอย่างเช่น โดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าอัลกอริทีมที่ใช้สำหรับการให้คะแนนเครดิตไม่มีผลกระทบจากการเลือกปฏิบัติ และโดยการยอมรับแหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่แหล่งดั้งเดิม เช่น ประวัติการเช่า และใบเรียกเก็บเงินค่าสาธารณูปโภคเพื่อกำหนดเครดิต เขาจะหยุดการเลือกปฏิบัติในการเช่าบ้านและการกระทำที่เลือกปฏิบัติและไม่ยุติธรรมอื่นๆ ในตลาดบ้าน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายสำหรับเจ้าของบ้านใหม่และพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิพื้นฐานของพลเมืองของผู้ให้เช่า การปกป้องผู้เช่าจากการถูกขับไล่ ส่งเสริมและขยายกฎหมายการหมุนเวียนการลงทุนในชุมชน (Community Reinvestment Act) เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารและสถาบันบริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารให้บริการแก่ชุมชน AAPI และนำกฎหมายความเป็นธรรมด้านการจัดหาบ้านพักอาศัย (Affirmatively Furthering Fair Housing Rule) ของคณะบริหารโอบามา-ไบเดนมาปฏิบัติ อีกทั้ง ยังจะจัดตั้งเงินทุน 100 พันล้านดอลลาร์เพื่อบ้านในราคาไม่แพงเพื่อสร้างและยกระดับบ้านที่ราคาไม่แพง และลงทุนในการพัฒนาชุมชนโดยการเพิ่มการให้เงินทุนที่ยืดหยุ่นสำหรับงบประมาณแบบวงเงินรวมเพื่อการพัฒนาชุมชน (Community Development Block Grant) เป็นเงินจำนวน 10 พันล้านดอลลาร์ในเวลาสิบปี